วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567

มะแขว่น (Ma-khwaen)

มะแขว่น (Ma-khwaen) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zanthoxylum limonella (Dennst.) Alston. วงศ์ : Rutaceae ชื่ออื่น ๆ : ลูกระมาศ, หมากมาศ , กำจัดต้น , พริกหอม , มะแขว่ม, หมักข่วง , บักแข่น ฯลฯ ลักษณะ : ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 12-20 เมตร เปลือกสีขาว มีหนามแหลมรูปกรวยปลายตรงหรือโค้งเล็กน้อย ขึ้นตามลำต้น กิ่ง และก้านใบ ผล รุปร่างกลมผลอ่อนสีเขียวเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-0.7 เซนติเมตร รสเผ็ดซ่ามาก เมื่อแก่เปลือกเป็นสีน้ำตาล และแตกอ้าเห็นเมล็ดสีดำเป็นมัน แหล่งที่พบขึ้นตามป่าดิบ : ในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ประโยชน์ทางสมุนไพร : ตำรายาไทยใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ด้านอื่น ๆ : ใช้ใบเป็นอาหาร ผลแก่และเมล็ด ใช้เป็นเครื่องเทศผสมเครื่องแกงของอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ ข้อมูลทั่วไป : มะแขว่น (Ma-khwaen) ชื่อวิทยาศาสตร์ Zanthoxylum limonella (Dennst.) Alston. เป็นไม้ยืนต้นใน วงศ์ Rutaceae มีการใช้เป็นยาแผนโบราณ โดยนำผลและเมล็ดมาทำเป็นเครื่องเทศ นอกจากนี้ยังมีน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการลดความเครียดของกล้ามเนื้อและสารเมตาบอไลต์บางชนิดมีฤทธิ์ต้านเซลล์ ต้านแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา และระงับความรู้สึก ลิโมนีน (Limonene) เป็นสารประกอบหลักชนิดหนึ่งในมะแขว่น ซึ่งเป็นโมโนเทอร์ปีน (Monoterpene) ที่มีกลิ่นเหมือนส้มและมะกรูดมักใช้กับผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เฒ่าเผาถ่าน พิท้กษ์โลก ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ https://youtu.be/akN5v_517nw?si=W-FsSq07NWgBE9C3

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567

เคล็ดลับการเผาถ่าน…!!!

เคล็ดลับการเผาถ่าน…!!! ” ภูมิปัญญาที่เฒ่าเผาถ่านได้มาจากการหมกมุ่นและเป็นผีบ้าอยู่กับเตาเผาถ่านมานานกว่าสองทศวรรษ “ การเผาถ่านเป็นภูมิปัญญา จึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเคล็ดลับของวิชาการเผาถ่านที่มากพอ ( รู้จริง รู้ลึก เข้าถึง เข้าใจ ทำได้ด้วยตนเอง ) เมื่อสร้างเตาได้ประสิทธิภาพตามที่ต้องการแล้ว ต่อไปก็ต้องรู้ขั้นตอนการเผาถ่าน เพื่อให้ได้ถ่านดี มีคุณภาพ โดย …………เริ่มจากการจัดหาไม้ที่จะนำมาเผาถ่าน ( ต้องไม่ใช่การตัดไม้ทำลายป่า ) เมื่อได้ไม้มาแล้ว ต้องนำมาตากแดดประมาณ ๑๕ - ๓๐ วัน ให้แห้ง (ไม้สดก็ไม่ดี ไม้แห้งมาดก็ไม่ดี ) เมื่อไม้แห้งได้ที่แล้ว นำไปเข้าเตา โดยการเรียงไม้ในเตาในแนวตั้ง เริ่มกระบวนการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) ขั้นตอนที่ ๑ การทำให้แห้ง ( รมควัน ) การอบแห้ง  จุดไฟที่ทางเข้าเตา เผาฟืนเพื่อส่งความร้อนให้ความอบอุ่นภายในเตา โดยปกติ การทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) จะเริ่มในเวลาประมาณ ๑ ถึง ๒ ชั่วโมง หากความร้อนเพิ่มขึ้น แต่กระบวนการจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการทำให้แห้งและรมควันอย่างช้าๆ ค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิจากประมาณ 30 °C (ที่ปลายปล่องควัน ) และค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิเป็น 80 °C เมื่อการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) เริ่มขึ้น  มีวิธีปิดหน้าตอนกลางคืนและไม่เผาฟืนในกรณีไม่สามารถอยู่เฝ้าดูเตาเผาถ่านได้ แต่เนื่องจากเราต้องการกำจัดความผันผวนของอุณหภูมิ เราจึงใส่ฟืนทุกๆ ครึ่ง ถึง ๑ ชั่วโมงในระหว่างวัน และทุกๆ ๓ ถึง ๔ ชั่วโมง ในเวลากลางคืนเพื่อลดอุณหภูมิลง ระวังอย่าให้อุณหภูมิสูงเกินไปอีก  การอบแห้งเป็นเวลานานจะมีโอกาสเกิดรอยแตกร้าวน้อยลง ทำให้เกิดถ่านไม้คุณภาพสูงที่คงรูป เป็นแท่งสวยงาม ขั้นตอนที่ ๒ การทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) [炭化]  เมื่ออุณหภูมิของปล่องไฟถึงประมาณ 80 °C กลิ่นเปรี้ยวและฉุนจะถูกปล่อยออกมาจากควัน นี่คือสัญญาณว่าจุดเริ่มต้นของการทำ ไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) เริ่มต้นขึ้น  ปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่า Pyrolysis (ไพโรไลซิส) ทำให้เกิดจุดเริ่มต้นของการทำให้ไม้เป็นถ่าน และความร้อนจะเกิดขึ้นในขณะนั้น (การทำให้ไม้เป็นถ่านตามธรรมชาติ) ดังนั้นการใส่ฟืนที่หน้าเตาจึงหยุดลงและการเปิดหน้าเตาเผาจะค่อย ๆ แคบลง ( การหรี่หน้าเตา )  นี่เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในการเผาหรืออบถ่าน เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นอย่างช้า ๆ การทำให้ไม้เป็นถ่านควรเกิดขึ้นทีละน้อยโดยไม่ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป  หากคุณหยุดการใส่ฟืนหน้าเตาเร็วเกินไป อุณหภูมิจะลดลงและการเกิดถ่านจะไม่เริ่มขึ้น นอกจากนี้ หากช้าเกินไป อุณหภูมิก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (การทำให้ไม้เป็นถ่านอย่างรวดเร็ว) เนื่องจากความร้อนของกระบวนการเผาหรืออบถ่าน ที่เกิดขึ้นเอง ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของถ่านและสารละลายในน้ำส้มควันไม้จากไม้  การทำให้ไม้เป็นถ่านอย่างรวดเร็วส่งผลเสียต่อน้ำส้มควันไม้จากไม้เป็นพิเศษ ส่วนประกอบของไม้สามารถแบ่งกว้างๆ ได้เป็น ๓ ประเภท ได้แก่ ๑. เซลลูโลส ๒. เซมิเซลลูโลส และ ๓. ลิกนิน ที่จุดเริ่มต้นของการทำให้เป็นถ่าน เซลลูโลสเริ่มสลายตัว (ทำให้เป็นถ่าน) เนื่องจากความร้อน ตามมาด้วยเซมิเซลลูโลส และสุดท้ายลิกนิน น้ำมันดินที่เป็นอันตรายมีอยู่ในลิกนิน ดังนั้นจึงห้ามเก็บน้ำส้มควันไม้ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 150 °C (ที่ปลายปล่องควัน) ซึ่งเป็นช่วงที่ลิกนินจำนวนมากเริ่มสลายตัว อย่างไรก็ตาม หากเกิดการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) อย่างรวดเร็ว ลิกนินจำนวนมากจะสลายตัวตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ส่งผลให้น้ำส้มควันไม้มีสีเข้ม ซึ่งมีน้ำมันดินจำนวนมาก จึงทำให้น้ำส้มควันไม้มีสีดำได้  สีของน้ำส้มควันไม้ที่ได้จากการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) อย่างช้าๆ จะเป็นสีเหลืองอำพันที่สวยงาม แทนที่จะเป็นสีดำเหมือนน้ำส้มควันไม้ทั่ว ๆ ไป  เมื่อการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) เริ่มต้นขึ้น ช่องหน้าเตาเผาและปล่องควันจะถูกหรี่ให้แคบลงจนถึงจุดที่อุณหภูมิกำลังจะลดลง และกระบวนการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) จะดำเนินการอย่างช้าๆ  เตาเผาถ่านที่มีเพดานต่ำ ระยะห่างจากเพดานจะเท่ากันทุกจุดในเตาเผา และไม้จะถูกทำให้เป็นถ่านพร้อม ๆ กัน (หากมีระยะห่างจากเพดานจะทำให้อุณหภูมิในบริเวณนั้นสูงขึ้นได้ยาก กระบวนการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) จะเกิดขึ้นได้ช้า ) แม้ว่าการหรี่น้าเตาเผาจะถูกทำให้แคบลงในช่วงแรกของการทำให้เป็นถ่าน อุณหภูมิจะไม่ลดลง และสามารถรักษาความเป็นถ่านที่อุณหภูมิต่ำได้เป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะช่วยลดการสลายตัวของลิกนินและช่วยให้การเก็บน้ำส้มควันไม้ที่มีความบริสุทธิ์สูง ขั้นตอนที่ ๓. การการเก็บน้ำส้มควันไม้  ของเหลวที่เป็นน้ำส้มควันไม้ไม้จะถูกรวบรวมที่อุณหภูมิ ๘๐ °C ถึง ๑๒๐ °C (ที่ปลายปล่องควัน ) เมื่อไม้ภายในเตมเริ่มต้นกลายเป็นถ่าน  โดยปกติอุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง ๘๐ °C ถึง ๑๒๐ °C แต่เตาแบบวงบ่อซีเมนต์จะเลือกอุณหภูมิให้เหมาะสมอย่างระมัดระวังเพื่อผลิตน้ำส้มควันไม้ที่มีคุณภาพสูงขึ้น  สาเหตุหนึ่งก็คือวิธีการเผาเตาเผาแบบวงบ่อซีเมนต์ จะรักษาอุณหภูมิต่ำไว้เป็นเวลานาน ดังนั้นปริมาณน้ำส้มควันไม้ไม้ที่สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิ ๑๒๐ °C ถึง ๑๕๐ °C  นอกจากนี้ยังใช้สแตนเลสคุณภาพสูงที่ปลอดภัย สำหรับปล่องควันที่ช่วยระบายความร้อนให้กับควัน และเรายังมีระบบกันฝนเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนเข้ามาในกรณีที่ไม่น่าจะเกิดช่องว่างที่ข้อต่อใด ๆ ขั้นตอนที่ ๔ การกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในเนื้อถ่าน ขั้นตอนนี้ญี่ปุ่นเรียกว่า “ เซเรน '' หรือ ” เนราชิ “ 「精煉(せいれん)」または「ねらし」  เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนปิดเตา ปากเตาเผาและปล่องควันจะค่อย ๆ เปิดออกเพื่อให้อากาศเข้ามาได้มากขึ้น และเพิ่มอุณหภูมิของเตาเผาเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในเนื้อถ่าน  นี่เป็นกระบวนการเผาน้ำมันดินที่เหลือเพื่อผลิตถ่านที่ไม่ปล่อยควันเมื่อนำไปใช้ หรือเพื่อให้ได้ถ่านแข็ง สะอาด บริสุทธิ์  ถ่านภายในเตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ในตอนแรกก็จะมีเปลวไฟริบหรี่ แต่ทำต่อไปจนกว่าเปลวไฟจะหมดไป อุณหภูมิปล่องควันเพิ่มขึ้นเป็น ๔๐๐ - ๔๕๐ °C (อุณหภูมิภายในเตาเผาคือ ๘๐๐ -๑๐๐๐ °C หรือสูงกว่า) ใช้เวลา ๖ ถึง ๙ ชั่วโมง  ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิเตาเผาให้สูง ถ่านใกล้ทางเข้าเตาก็จะไหม้มากขึ้น และผลผลิตก็ลดลง (แม้จะดูเป็นผู้เชี่ยวชาญก็เผาก๊าซในเตาเผาด้วย ดังนั้นการลดลงของถ่านจึงลดลง) จะได้ถ่านน้อยลง...) แต่จะผลิตถ่านแข็งที่นำไฟฟ้าได้ดีแทน  “ คุณควรเลือกผลผลิตหรือคุณภาพ ? '' การกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในเนื้อถ่านเป็นปัญหาสำหรับผู้ผลิตถ่านมานานแล้ว ขั้นตอนที่ ๕ การทดสอบ [ เพื่อเป็นแนวทางในการเริ่มต้นการทดสอบ ให้เตรียมไม้ขีดไฟไว้และดูว่าจะใช้เวลากี่วินาทีในการเผา ]  ถ่านไม้ที่แข็งและแกร่ง ซึ่งทำให้เกิดเสียงโลหะเมื่อถูกกระแทกและให้ความรู้สึกหนัก ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการเพิ่มอุณหภูมิ แต่โดยการค่อย ๆ ทำให้เกิดถ่านตั้งแต่เริ่มต้นการเผาหรืออบถ่าน  การปรับแต่งหน้าเตาและปล่องควัน เป็นความชำนาญขั้นสูงสุดของคนเผาถ่าน เป็นช่วงเวลาแห่งความสงบและความใจเย็น เฉกเช่นพระจันทร์เต็มดวง เฒ่าเผาถ่าน พิท้กษ์โลก ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๗ ปล. Pyrolysis (ไพโรไลซิส) เป็นกระบวนการที่ใช้ความร้อนเพื่อทำให้สารมีการสลายออกเป็นสารอื่นๆ โดยไม่ใช้ออกซิเจน

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

หมอนถ่านไม้ไผ่ บันตัน 1



หมอนหนุนถ่านไม้ไผ่ 

ขนาด 19” x 29” 

บรรจุถ่านไม้ไผ่ 2.5 กก.

คุณสมบัติถ่านไม้ไผ่คุณภาพสูง 

▶️ ดูดซับกลิ่นและก๊าซพิษ

▶️ ต่อต้านและป้องกันเชื้อแบคทีเรีย

▶️ ป้องกันไรฝุ่น

▶️ ช่วยขจัดความชื้น / เหงื่อ ระหว่างการนอน

▶️ ปล่อยรังสีฟาร์อินฟราเรด ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต

▶️ ปล่อยประจุลบ ช่วยให้สดขื่น แจ่มใส และปรับปรุงดูแลสุขภาพ

▶️ ดูดซับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ

▶️ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นระหว่างการนอน

▶️ ปรับปรุงการนอนหลับโดยการควบคุมและเจือจางคลื่น Alpha and Beta ( regulating and attenuating Alpha and Beta )

✳️✳️❇️ หมอนถ่านไม้ไผ่ บันตัน มีคุณสมบัติ :-

✅ ปรับปรุงการนอนหลับให้หลับสนิท หลับลึก

✅ แก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ

✅ แก้ปัญหาอาการปวดคอและไหล่

✅ แก้ปัญหาอาการปวดหัวไมเกรน

✅ แก้ปัญหาอาการมึนงงยามตื่นนอน

✅ แก้ปัญหาอาการความเหนื่อยล้า

✅ ช่วยให้นอนหลับสบายตลอดการใช้งาน


เฒ่าเผาถ่าน


วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

ไข่ดำ ถ่านไม้ไผ่ บันตัน

ความลับของ "ไข่ดำ"

เปลือกไข่ไก่ : เต็มไปด้วยรูพรุน (Porous) ขนาดเล็กจำนวนมากที่ก่อตัวเป็นอุโมงค์ระหว่างผลึก อุโมงค์เหล่านี้ช่วยในการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างด้านในของไข่และภายนอก

เปลือกไข่ไก่ เมื่อถูกเคลือบด้วยถ่านไม้ไผ่ บันตัน แล้วนั้น แร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีในถ่านไม้ไผ่ บันตัน จะถูกกระตุ้นด้วยคลื่น Negative ions และ Far infrared ที่ปล่อยออกมาจากตัวถ่านไม้ไผ่ แร่ธาตุต่าง ๆจึงซึมผ่านรูพรุนขนาดเล็กของเปลือกไข่ชั้นนอก ผ่านเยื่อชั้นใน เข้าไปซึมซับในไข่ขาวและไข่แดง จึงส่งผลให้ "ไข่ดำ" มีรสชาติและมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ต่างจากไข่ต้มธรรมดาทั่วๆไป

ไข่ดำเฒ่าเผาถ่าน หนึ่งเดียวในประเทศไทย

ใช้เป็นอาหารเสริม รับประทานเพื่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการโดยไม่ใช้สารปรุงรส ไม่ใช้สารแต่งสี ไม่ใช้สารกันบูด

เฒ่าเผาถ่าน

20 กันยายน 2562

ไข่ดำ ถ่านไม้ไผ่ บันตัน


ความลับของ "ไข่ดำ"

เปลือกไข่ไก่ : เต็มไปด้วยรูพรุน (Porous) ขนาดเล็กจำนวนมากที่ก่อตัวเป็นอุโมงค์ระหว่างผลึก อุโมงค์เหล่านี้ช่วยในการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างด้านในของไข่และภายนอก

เปลือกไข่ไก่ เมื่อถูกเคลือบด้วยถ่านไม้ไผ่ บันตัน แล้วนั้น แร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีในถ่านไม้ไผ่ บันตัน จะถูกกระตุ้นด้วยคลื่น Negative ions และ Far infrared ที่ปล่อยออกมาจากตัวถ่านไม้ไผ่ แร่ธาตุต่าง ๆจึงซึมผ่านรูพรุนขนาดเล็กของเปลือกไข่ชั้นนอก ผ่านเยื่อชั้นใน เข้าไปซึมซับในไข่ขาวและไข่แดง จึงส่งผลให้ "ไข่ดำ" มีรสชาติและมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ต่างจากไข่ต้มธรรมดาทั่วๆไป

ไข่ดำเฒ่าเผาถ่าน หนึ่งเดียวในประเทศไทย

ใช้เป็นอาหารเสริม รับประทานเพื่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการโดยไม่ใช้สารปรุงรส ไม่ใช้สารแต่งสี ไม่ใช้สารกันบูด

เฒ่าเผาถ่าน

20 กันยายน 2562

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ถ่านไม้ไผ่ 

( Bamboo Charcoal ) 

เมื่อกล่าวถึง ” ถ่าน ” หลายคนคงจะนึกถึงชิ้นไม้ดำๆ ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับหุงต้มอาหารในครัวเรือนเท่านั้น แต่จริงแล้วถ่านมีสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่ง คือ สามารถดูดซับกลิ่นเหม็นอับไม่พึ่งประสงค์ต่างๆ ได้  ซึ่งจะเห็นจากการนำถ่านมาใส่ไว้ในตู้เย็น ทำให้ตู้เย็นไม่มีกลิ่นเหม็นคาว ใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า และตู้โชว์ เพื่อไม่ให้มีกลิ่นเหม็นอับ

สิ่งที่ทำให้ถ่านมีความสามารถในการดูดซับกลิ่นได้ โดยเฉพาะ  ถ่านไม้ไผ่ (Bamboo Charcoal) เนื่องจากโครงสร้างของ ถ่านไม้ไผ่ มีลักษณะเป็นรูพรุนเล็กๆ มากมาย  โดยกลิ่นเหม็นอับต่างๆ จะแพร่เข้ารูพรุนเหล่านี้ ทำให้เกิดการดูดซับกลิ่นเหล่านั้นไว้ตามผนังและในรูพรุน หากถ่านมีรูพรุนมากๆก็จะทำให้ดูดซับกลิ่นได้มากตามไปด้วย 

ประวัติความเป็นมา

ในประเทศไทย ได้มีการผลิตถ่านไม้ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงมาเป็นเวลานานมากแล้ว ซึ่งวิธีการผลิตถ่านไม้ที่ใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่หลายคนคงเคยพบเห็น ก็คือ การที่ชาวบ้านตัดต้นไม้ทั้งที่อยู่ในที่ของตนเองและในป่าไม้ธรรมชาติมาเผา โดยการนำท่อนไม้มาวางเรียงแล้วจุดไฟ จากนั้นจึงใช้ดินหรือแกลบกลบ ปล่อยให้ลุกไหม้แล้วนำถ่านออกมาดับด้วยน้ำ และมักจะย้ายที่ผลิตไปเรื่อย ๆ ตามแต่ว่าที่ไหนจะมีไม้ให้เผา เมื่อไม้หมดก็จะย้ายไปผลิตที่อื่นต่อ การผลิตถ่านไม้จึงถูกมองว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่าและสร้างมลพิษ เมื่อการผลิตถ่านไม้ถูกมองว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่า อีกทั้งกฎระเบียบต่าง ๆที่เกี่ยวกับป่าไม้ก็ไม่เอื้ออำนวยให้เกิดแรงจูงใจในการพัฒนาวิธีการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ดังนั้นการศึกษาทำความเข้าใจ การวิจัยพัฒนาคุณภาพและผลผลิตของถ่านไม้ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้ จึงมีน้อยมาก

การผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพในประเทศไทย อาจกล่าวได้ว่าเป็นแบบก้าวกระโดด คือ แตกต่างจากการเผาถ่านที่คนไทยทั่วไปรู้จักเป็นอย่างมาก เนื่องจากการผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพนั้นเป็นการนำเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้สามารถเผาถ่านไม้ไผ่ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 1,000 เซลเซียสได้

ผู้ผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ ( คนแรกของประเทศไทย ) คือ คุณกิตติ เลิศล้ำ ได้รับการถ่ายทอดทั้งเทคนิคในการทำเตาเผาและกรรมวิธีในการทำทั้งหมดจากเพื่อนชาวญี่ปุ่น ชื่อ Mr. Daisaku Nakago ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญเรื่องการทำถ่านไม้เป็นอย่างดี เนื่องจากครอบครัวของ Mr. Daisaku Nakago ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นประกอบอาชีพผลิตถ่านไม้ มาหลายชั่วอายุคน เมื่อทั้งสองได้เล็งเห็นว่าบ้านเกิดของคุณกิตติที่จังหวัดปราจีนบุรีนั้นมีการปลูกไม้ไผ่กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นวัตถุดิบในการผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพได้ คุณกิตติจึงตัดสินใจลงมือทำทันที เมื่อปี พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อทำเป็นสินค้าส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น นอกจากคุณกิตติจะได้ฝึกฝนการเผาถ่านตามกรรมวิธีที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นได้แนะนำจนเกิดความชำนาญและปรับปรุงพัฒนาเทคนิคกรรมวิธีการเผาจนสามารถทำถ่านไม้ไผ่ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว คุณกิตติยังได้ศึกษา ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องถ่านไม้ไผ่ จนทราบว่าถ่านไม้ไผ่มีคุณสมบัติอย่างไร นำไปใช้ประโยชน์ด้านใดได้บ้าง และผลพลอยได้จากการทำถ่านไม้ไผ่ ที่เรียกว่า น้ำส้มควันไม้ไผ่ ( BAMBOO VINEGAR) นั้นมีคุณสมบัติและคุณประโยชน์อย่างไร จากตำราของเพื่อนชาวญี่ปุ่นและจากการค้นคว้าด้วยตัวเองทาง Interner บ้าง สื่ออื่น ๆ บ้าง ดังนั้นเมื่อคุณกิตติต้องประสบกับปัญหาด้านการส่งออก เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นได้มีการกำหนดโควต้าการนำเข้าถ่านไม้ไว้ในจำนวนที่จำกัด อีกทั้งข้อกำหนดทางกฎหมายในเรื่องถ่านไม้ในประเทศไทยก็ยังไม่เอื้ออำนวย คุณกิตติจึงมีความคิดที่จะทำตลาดในประเทศไทยแทน เพราะเห็นว่าถ่านไม้ไผ่ที่ทำได้นั้นมีคุณสมบัติและคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพของผู้ใช้แตกต่างจากถ่านไม้ทั่ว ๆไปที่มีอยู่ในตลาด และสินค้าเพื่อสุขภาพที่ทำจากถ่านไม้ไผ่ในประเทศไทยก็ยังไม่มีในขณะนั้น ในช่วงนั้นเองทางรัฐบาลก็ได้มีโครงการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ( OTOP CHAMPION ) และได้เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดย่อม ( SME) เข้าร่วมโครงการได้

คุณชาญอนันต์ ชัยชาญ พัฒนาการอำเภอนาดี ( เมื่อปี 2546 ) ได้เข้ามาให้คำแนะนำและส่งเสริมให้คุณกิตติได้ส่งสินค้าเข้าร่วมคัดสรรในปี พ.ศ. 2546 ซึ่งต่อมาถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพได้ผ่านการคัดสรรให้เป็นสินค้า OTOP ในระดับ 4 ดาว ของภาคกลาง และได้ไปจำหน่ายที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2546 ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่คุณกิตติได้เริ่มทำถ่านไม้ไผ่มาเป็นเวลากว่า 4 ปี ซึ่งในครั้งนั้นถึงแม้ว่าจะมียอดจำหน่ายไม่สูงนัก แต่ก็ถือว่าได้ผลตอบรับที่น่าพอใจ เพราะมีผู้ให้ความสนใจเกี่ยวกับคุณสมบัติและคุณประโยชน์ของถ่านไม้ไผ่ทั้งจากประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ติดต่อสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีคนรู้จักถ่านไม้ไผ่มากขึ้น นอกจากนั้นทางคณะผู้บริหารของสถาบันเพื่อพัฒนาการเกษตรและชนบทจำเนียร สาระนาค ( สจส. ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การสบับสนุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส. ) เพื่อดำเนินการให้บริการทางการศึกษาดูงานและฝึกอบรมด้านการพัฒนาการเกษตรและชนบท แก่หน่วยงาน องค์กร และบุคคลทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ ได้ให้ความสนใจและให้เกรียติมาเยี่ยมชมสถานที่ผลิตและช่วยอุดหนุนสินค้าผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ ถึงจังหวัดปราจีนบุรีเลยทีเดียว นอกจากนั้นคุณกิตติยังรับเกรียติให้เป็นวิทยากรรับเชิญ เพื่อให้คำแนะนำแก่เกษตรกรที่สนใจในเรื่องของการเผาถ่านด้วยถังน้ำมัน 200 ลิตร ร่วมกับทีมงานวิทยากรของ สจส. ตามที่ต่าง ๆอีกด้วย เช่น งานกาชาดจังหวัดเชียงใหม่, งานเพื่อฟ้าดินที่ราชธานีอโสก จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น

นอกจากนั้นคุณกิตติยังได้รับการส่งเสริมและคำแนะนำต่างๆ จากหน่วยงานทางภาครัฐ ของจังหวัดปราจีนบุรี ทั้งพัฒนาชุมขนจังหวัด, อุตสาหกรรมจังหวัด, พาณิชย์จังหวัด, พัฒนาชุมชนอำเภอนาดี ฯลฯ ทำให้คุณกิตติได้ไปเข้าร่วมการ อบรม และสัมมนาในโครงการต่าง ๆ ของหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ จนสามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนารูปแบบของสินค้าให้สวยงามและเป็นที่ต้องการของตลาดยิ่งขึ้น ทำให้การไปจำหน่ายสินค้าที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ในงาน เมืองแห่งภูมิปัญญาไทย (OTOP CITY) วันที่ 21 – 28 ธันวาคม 2546 มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ และมียอดสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทุกวันนี้

เอกลักษณ์และจุดเด่นของผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ เป็นสินค้าที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในท้องถิ่น ดังจะเห็นได้จากคำขวัญของจังหวัดปราจีนบุรีที่ว่า ” ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน ไผ่ตงหวานคู่เมือง ผลไม้ลือเลื่อง เขตเมืองทวารวดี ” อีกทั้งยังได้นำภูมิปัญญาของท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นอีกด้วย นอกจากนั้น คุณสมบัติและคุณประโยชน์ต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพที่ทางผู้ผลิตได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ออกไปนั้น ก็สามารถตรวจสอบและพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แต่วิธีง่าย ๆ ที่ใช้ดูลักษณะถ่านประเภทนี้ก็คือ เมื่อเคาะถ่านจะมีเสียงดังกังวานคล้ายเสียงเคาะกระเบื้องดินเผา เมื่อหักดูจะเห็นสีดำมันวาว และเมื่อใช้นิ้วถูที่บริเวณรอยหักของถ่านจะไม่มีสีดำติดที่นิ้วเลย ส่วนที่ผิวถ่านอาจจะมีสีดำติดบ้างเล็กน้อย เนื่องจากคุณสมบัติของเปลือกไม้ เมื่อนำไปให้เป็นเชื้อเพลิงจะจุดติดไฟได้ยาก แต่เมื่อติดแล้วจะให้ความร้อนที่สูงมาก มอดดับช้า ถ่านไม่แตกปะทุ และควันน้อยมาก

คุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นเกิดจากการเผาถ่านด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส meให้ถ่านไม้ไผ่

– มีรูพรุนเป็นจำนวนมาก
– มีคาร์บอนเสถียร ( FIXED CARBON ) สูงมากกว่า 85 %
– มีสารระเหยง่ายต่ำ
– มีแร่ธาตุมาก
– และค่าความต้านทาน ( Resistance ) ไม่เกิน 100 โอห์ม
                   
ดังนั้นถ่านไม้ไผ่ที่ผลิตได้จึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ได้แก่ ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น ใช้ในระบบกรองน้ำ บำบัดน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยา ก้นกรองบุหรี่ ใช้ผลิตชิ้นส่วนของแบตเตอรี่ และถ่านไฟฉาย ฯลฯ, ใช้ในครัวเรือน เช่น ใช้ประกอบอาหารปิ้ง ย่าง ใช้ดูดกลิ่นและความชื้นในบ้าน ในห้องปรับอากาศ ในรถยนต์ ใส่ในถังข้าวสารเพื่อดูดความชื้นจากข้าว ใช้ดูดความชื้นใต้ถุนบ้าน ฯลฯ, ใช้ในการเกษตร เช่น ใช้เป็นสารปรับปรุงดิน ใช้ช่วยในการทำปุ๋ยหมัก ใช้รักษาผลผลิตทางการเกษตรไว้ให้สดนานขึ้น ฯลฯ, ใช้ในการปศุสัตว์ เช่น ใช้รองพื้นคอกปศุสัตว์ ใช้ผสมในอาหารสัตว์ เป็นต้น

นอกจากนั้นกระบวนการผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ ยังทำให้เกิดผลพลอยได้จากการผลิตถ่าน นั่นก็คือ น้ำส้มควันไม้ไผ ( BAMBOO VINEGAR) ซึ่งเกิดจากการควบแน่นของควันในขณะเผาถ่าน มีลักษณะเป็นของเหลวสีน้ำตาลใส มีกลิ่นควันไม้ หากผ่านการกลั่นจะมีสีเหลืองใส ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำเกษตรอินทรีย์

ด้วยเอกลักษณ์และจุดเด่นดังกล่าวข้างต้นทำให้ผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ ได้ผ่านการคัดสรรเป็นสินค้า OTOP ในระดับ 4 ดาว ของภาคกลาง ในปี 2546 และระดับ 4 ดาว ของประเทศ ในปี 2547 ( เป็นรายแรกและรายเดียวของประเทศไทย ) และกลายเป็นสินค้าของฝากที่ขึ้นชื่อ และนำชื่อเสียงมาสู่อำเภอนาดี และจังหวัดปราจีนบุรี ผลิตภัณฑ์กับความสัมพันธ์กับชีวิตและชุมชน ผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพมีความสัมพันธ์กับชีวิตและชุมชน ดังต่อไปนี้…

ด้านอาชีพ :

ทำให้เกิดวิสาหกิจชุมชน กระจายรายได้ให้คนในท้องถิ่น ทั้งกลุ่มผู้ปลูกไม้ไผ่ และกลุ่มตัดเย็บ
– สมาชิกกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น
– สมาชิกกลุ่มมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
– สมาชิกในชุมชนมีงานทำ
– ยกระดับอาชีพคนเผาถ่านให้เป็นที่ยอมรับในสังคม ด้านการศึกษา
– เป็นที่ศึกษา ดูงานด้านการผลิตถ่านไม้ที่มีคุณภาพ
– เป็นวิทยากรให้คำแนะนำเรื่องการเผาถ่าน – ส่งเสริม เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเรื่องถ่าน
– พัฒนาความคิด ช่วยกันสร้างสรรค์พัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้านชุมชน
– ปลูกฝังเรื่องการอนุรักษ์ป่าไม้ไม่ให้ตัดต้นไม้ใหญ่เพื่อนำมาเผาถ่านเช่นในอดีต
– เกิดจิตสำนึกในการปลูกไม้ไผ่ในชุมชน การสร้างป่าถาวร
– เกิดการสร้างภูมิปัญญา
– เกิดปราชญ์ชาวบ้าน ที่รู้จริงทำจริง เวทีวิเคราะห์การพัฒนาผลิตภัณฑ์

การพัฒนาผลิตภัณฑ์

1. คุณภาพสินค้า / ตัวสินค้า – สามารถเพิ่มอุณหภูมิในการเผาให้สูงขึ้น ทำให้ถ่านไม้ไผ่มีคุณภาพดียิ่งขึ้น – ปรับปรุงรูปแบบสินค้าให้มีสีสันสวยงาม น่าใช้ยิ่งขึ้น – ปรับปรุงรูปทรงของสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น

2. บรรจุภัณฑ์ – ปรับปรุงให้มีความประณีต สวยงามมากขึ้น

3. การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ – มีเครื่องมือในการตรวจสอบคุณภาพของถ่านไม้ไผ่ที่ใช้ทำสินค้า – ส่งสินค้าให้สถาบันที่มีความน่าเชื่อถือช่วยตรวจสอบ วิเคระห์คุณสมบัติให้ได้มาตรฐานอยู่อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นกลุ่มฯ ยังมีเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพถ่าน ไว้ใช้สำหรับตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์และรักษามาตรฐานการผลิตให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ

ถ่านไม้ไผ่ตามมาตรฐานของญี่ปุ่นและจีนแบ่งไว้เป็น 2 เกรด  คือ : –

1.  เกรด  1  ( White Charcoal หรือ 1st grade )  เป็นถ่านไม้ไผ่คุณภาพสูงใช้กรรมวิธีการผลิตและอุณหภูมิภายในเตามากกว่า 1,000 ºC  เหมาะสำหรับใช้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ  มีคุณสมบัติที่ดีต่อมนุษย์  สัตว์  สิ่งแวดล้อม  ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม

2.  เกรด  ปกติทั่วไป  ( Black Charcoal หรือ Regulation grade )  เป็นถ่านที่ใช้กรรมวิธีการผลิตและอุณหภูมิภายในเตาต่ำกว่า 1,000 ºC  เหมาะสำหรับใช้เป็นถ่านเชื้อเพลิง หุงต้มอาหารและถ่านเพื่อให้พลังงานความร้อนอื่น ๆ  แต่ไม่ควรนำไปประกอบอาหารประเภท ปิ้ง  ย่าง  บาร์บีคิว  ยากิโตริ ( ไก่เสียบไม้ย่าง ) เพราะค่าของถ่านคงที่ ( Fixed  Carbon  ) ไม่ถึงหรือน้อยกว่า  85 %

ถ่านไม้ไผ่ (Bamboo Charcoal) ภาษาญี่ปุ่นเรียก ทาเคะสึมิ (takezumi)  หรือ คิคุตัน (tikutan) ทำมาจากไม้ไผ่ ( Bamboo ) เป็นถ่านที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตด้วยอุณหภูมิภายในเตามากกว่า 1,000 ºC  มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์  สัตว์  ธรรมชาติและสภาพแวดล้อมมากมาย

ถ่านไม้ไผ่ ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตด้วยอุณหภูมิภายในเตามากกว่า  1,000 ºC  แตกต่างไปจากถ่านทั่วไป  หรือแม้แต่ถ่านขาว ( White Charcoal )  หรือบินโจตัน ( Binchotan )  ที่มีผลิตกันมากในประเทศญี่ปุ่นและจีน  ปัจจุบันประเทศจีนปิดป่าจึงไม่มีการผลิตถ่านทั้งสองชนิดนี้แล้ว

ถ่านไม้ไผ่  ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตด้วยอุณหภูมิภายในเตามากกว่า 1,000 ºC  มีลักษณะพิเศษ  ดังนี้ :-

มีรูพรุนมากกว่า  หากนำมาแผ่กระจายออกเป็นพื้นที่จะได้พื้นที่มากถึง 300 ถึง 700  ตร.ม / กรัม ( ถ่านไม้ทั่วไป จะได้พื้นที่ประมาณ  50  ตร.ม / กรัม  ) 

มีค่าความด้านทานไฟฟ้า ( Resistance ) ต่ำ  ( ไม่เกิน 100 โอห์ม )

มีแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย

จีน และ ญี่ปุ่น ได้ทำการวิจัยถ่านไม้ไผ่ ที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตด้วยอุณหภูมิภายในเตามากกว่า 1,000 ºC  พบว่ามีคุณสมบัติพิเศษ  สามารถให้กำเนิดและปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray )

จากคุณสมบัติดังกล่าว ถ่านไม้ไผ่ จึงถูกนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในหลากหลายรูปแบบ เป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่นและมีราคาแพง เช่น :-

1. ใช้เป็นวัสดุตบแต่งบ้านเรือน  ( Decorate ) ช่วยฟอกอากาศ  ดูดกลิ่น ( Deodorizing ) ความชิ้น ( Moisture )  ปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray ) ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

1.1 ต้องใช้ถ่านไม้ไผ่ในปริมาณที่เหมาะสมกับพื้นที่

2. ทิ้งลงในแม่น้ำลำคลองลดการเน่าเสียของน้ำ  ช่วยบำบัดน้ำเสีย เพิ่มแร่ธาตุ แคลเซี่ยม โพตัสเซี่ยม  แมกเนเซี่ยม ฯลฯ

2.1 ต้องใช้ถ่านไม้ไผ่ในปริมาณที่เหมาะสมกับปริมาตรน้ำ

3. แช่ในถังน้ำดื่ม ช่วยดูดซับคลอรีน และสิ่งที่มีพิษ  เพิ่มแร่ธาตุ แคลเซี่ยม โพตัสเซี่ยม  แมกเนเซี่ยม ฯลฯ และปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray ) ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

3.1 ทำความสะอาดถ่านไม้ไผ่ด้วยแปรงหรือฟองน้ำ ห้ามใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานเด็ดขาด

3.2 ต้มถ่านไม้ไผ่ที่ล้างสะอาดแล้วด้วยน้ำเดือดประมาก 10 นาที

3.3 นำออกมาวางไว้ปล่อยให้แห้ง  ไม่ควรนำออกตากแดด

3.4 ใช้ถ่านไม้ไผ่ 100 กรัม ( 1 ชิ้น ) ต่อน้ำ 1 ลิตรแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 ~ 3  ชั่วโมง  น้ำจะมีคุณสมบัติเหมือนน้ำแรธรรมชาติหรือดีกว่า

3.5 หลังจากใช้ถ่านไม้ไผ่ในน้ำดื่มครบ 1 อาทิตย์  ควรนำออกมาต้มด้วยน้ำเดือด  และสามารถใช้ได้ 1 เดือนต่อถ่านไม้ไผ่ 100 กรัม

ตารางเปรียบเทียบแร่ธาตุต่างๆ  ระหว่างถ่านไม้ไผ่ ” บันตัน “กับถ่านไม้ไผ่และน้ำแร่ธรรมชาติที่เก็บตัวอย่างจากตลาดในประเทศญี่ปุ่น

ANALYSIS TEST

 ITEMS 1.BAMBOO CHARCOAL WATER( Japan ) : CALCIUM :22 mg/L / POTASSIUM 50 mg/L / MAGNESIUM 5.3 mg/L

 ITEMS 2.BAMBOO  CHARCOAL WATER( BunTun ) : CALCIUM 25.1 mg/L / POTASSIUM 133 mg/L / MAGNESIUM 4.9 mg/L

 ITEMS 3.MINERAL WATER OF MARKETING : CALCIUM 10 mg/L / POTASSIUM 2.6 mg/L / MAGNESIUM 1.5 mg/L

4. ใส่หม้อหุงข้าวขณะที่หุงข้าว  ช่วยดูดซับคลอรีน กลิ่นเหม็นอับของข้าวสารเก่า และสิ่งที่มีพิษ  เพิ่มแร่ธาตุ แคลเซี่ยม โพตัสเซี่ยม  แมกเนเซี่ยม ฯลฯ และปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray ) ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ เพิ่มรสและความนุ่มให้ข้าวสุก

4.1 ทำความสะอาดถ่านไม้ไผ่ด้วยแปรงหรือฟองน้ำ ห้ามใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานเด็ดขาด

4.2 ต้มถ่านไม้ไผ่ที่ล้างสะอาดแล้วด้วยน้ำเดือดประมาก 10 นาที

4.3 นำออกมาวางไว้ปล่อยให้แห้ง  ไม่ควรนำออกตากแดด

4.4 ใช้ถ่านไม้ไผ่ 300 กรัม ( 3 ชิ้น ) ต่อข้าว 1 หม้อ

4.5 ใช้ได้ 10 ~ 15 ครั้ง

5. ใส่ในอ้างอาบน้ำ ช่วยดูดซับคลอรีน และสิ่งที่มีพิษ เพิ่มแร่ธาตุ  และปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray ) ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ชำระล้างผิวหนัง  กระตุ้นการการไหลวนของเลือด  ช่วยให้ร่างกายสดชื่น

5.1 บรรจุถ่านไม้ไผ่ 300 กรัม  ในถุงตาข่าย

5.2 แช่ถุงถ่านลงในอ่างอาบน้ำ

5.3 เพิ่มอุณหภูมิของน้ำให้อุ่น

5.4 เอาถุงถ่านออกจากอ่างเมื่ออาบน้ำเสร็จ

5.6 ถ่านไม้ไผ่ 1 ถุงใช้ได้ 2 เดือน

6. ใส่ไว้ในที่นอน ไต้เตียง ในห้องนอน ช่วยฟอกอากาศ  ดูดกลิ่น  ความชิ้น  ปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray ) ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ กระตุ้นการการไหลวนของเลือด  จิตใจสงบเย็นในขณะพักผ่อนและช่วยให้นอนหลับได้ดี ร่างกายสดชื่น

6.1 ห้องขนาด 3.2 ม. x 3.2 ม. ต้องใช้ถ่านไม้ไผ่ 3 กก./ห้อง

7. ดูดซับและหักเหคลื่นไฟฟ้า  ( Absorption of Electromagnetic Wave )  ช่วยดูดซับและหักเหคลื่นไฟฟ้าที่แผ่กระจายออกมาจาก  ทีวี  คอมพิวเตอร์  จอมอนิเตอร์  อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปิดใช้งานอยู่ภายในบ้านและสถานที่ทำงาน  ดูดซับลดการแผ่กระจายของคลื่นไฟฟ้าจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ

8. ฟอกและปรับอากาศ ใต้เตียงนอน และใต้อาคารบ้านเรือน ช่วยดูดซับความชิ้นในฤดูที่มีความชื้นสูง  และคลายความชิ้นในฤดูที่มีความแห้งแล้ง

9. ใช้ผสมอาหารสัตว์ ช่วยเพิ่มแร่ธาตุ  ดูดซับสารพิษ  กำจัดแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร  ลดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์

10. ใช้ผสมดินเพื่อการเพาะปลูก  ช่วยปรับสภาพของดิน  เพิ่มแร่ธาตุที่พืชต้องการ

11. ใส่ในตู้เย็น ช่วยกูดกลิ่น และปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray ) ช่วยให้ผักสดเก็บไว้ได้นานวันขึ้น ถ่านไม้ไม้จะดูดซับก๊าชที่ผักและผลไม้คายออกมาซึ่งมีผลให้ผักและผลไม้เน่าเสีย

12. ใส่ในถังข้าวสาร ช่วยกูดกลิ่น ความชื้น และปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray ) ป้องกันมอด และแมลงต่าง ๆ

13. ใสไว้ในแจกันหรือกระถางดอกไม้ ทำให้เกิดออกไซด์ เพิ่มออกซิเจนและแร่ธาตุ แคลเซี่ยม โพตัสเซี่ยม  แมกเนเซี่ยม ฯลฯ ให้กับน้ำในแจกันหรือกระถางดอกไม้

14. ใส่ในตู้กระจกหรืออ่างเลี้ยงปลา  ช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เพิ่มแร่ธาตุ แคลเซี่ยม โพตัสเซี่ยม  แมกเนเซี่ยม ฯลฯ ทำให้น้ำใสสะอาด  ช่วยเร่งการตกตะกอนของฝุ่นละอองในน้ำ

15. ทำห้องบำบัดสุขภาพ  ช่วยฟอกอากาศภายในห้อง ดูดกลิ่น   ( Deodorizing)  ความชิ้น (Moisture) ปลดปล่อยประจุลบ ( Negative Ions ) และ อินฟาเรดยาว ( Far infrared ray ) ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

นอกจากนั้นยังใช้ถ่านไม้ไผ่เป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้อีกมากมายหลายชนิด  เช่น  สบู่  แชมพู  ยาสีฟัน  ถ่านเม็ดดูดสารพิษ.

คัดลอกจาก : เอกสารส่งคณะกรรมการคัดสรรผลิตภัณฑ์โอท๊อป ปี พ.ศ 2546


เฒ่าเผาถ่าน พิท้กษ์โลก