วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

พระสมเด็จถ่านดิน

ธรรมจัดสรร น้องชาย ลือชา เลิศล้ำ และ วีระ เลิศล้ำ (บวชพระ) ถามหาว่ายังมีอยู่หรือเปล่า จะนำไปมอบให้ผู้ร่วมสร้างพระอุโบสถ จึงคิดได้ว่าเคยสร้างและนำไปถวายให้พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถือศีลบริสุทธิ์ เคร่งในพระธรรมวินัย แสวงหาโมกขธรรมมานานกว่า ๔๐ พรรษา ที่เฒ่าเผาถ่านเคารพนับถือ เพื่อให้ท่านสวดสรรเสริญพุทธคุณ เจริญภาวณา ด้วยเมตตาจิตที่มีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย วันนี้ธรรมจัดสรรให้ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อพุทธศาสนา สนองตอบจิตศรัทธาของสาธุชนที่ร่วมอนุโทนาสร้างพระอุโบสถ จึงตอบน้องชายไปว่า “ถ้ามีบุญวาสนาได้ทำบุญสร้างกุศลร่วมกัน ก็คงยังมีเหลือ” จะจัดการอย่างไรก็ตามก็ตามต่อไปก็ตามแต่ตะเห็นสมควร พระพิมพ์ : พระสมเด็จ เนื้อ : ถ่านดิน สร้างขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 เป็นผลงานที่เกิดจากการเผาดินเหนียวให้กลายเป็นถ่าน จากภูมิปัญญเฒ่าเผาถ่าน คุณสมบัติพิเศษ :- - เป็นตัวนำไฟฟ้า - ขัดด้วยแปรงทองเหลืองจะกลายเป็นสีทอง - มีไว้เพื่อเป็นมิ่งขวัญกำลังใจ ยามที่พบกับทุกขเวทนาจนหาทางออกไม่ได้ เฒ่าเผาถ่าน พิท้กษ์โลก ปล. โมกขธรรม คือธรรมเป็นเครื่องหลุดพ้น ธรรมเป็นเหตุให้พ้น ธรรมที่นำสัตวโลกให้พ้นจากกิเลสและกองทุกข์ทั้งมวล ในความหมายสูงสุดคือพระนิพพาน เพราะพระนิพพานเป็นความดับกิเลสและกองทุกข์ได้ทั้งหมดทั้งสิ้น

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567

มะแขว่น (Ma-khwaen)

มะแขว่น (Ma-khwaen) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zanthoxylum limonella (Dennst.) Alston. วงศ์ : Rutaceae ชื่ออื่น ๆ : ลูกระมาศ, หมากมาศ , กำจัดต้น , พริกหอม , มะแขว่ม, หมักข่วง , บักแข่น ฯลฯ ลักษณะ : ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 12-20 เมตร เปลือกสีขาว มีหนามแหลมรูปกรวยปลายตรงหรือโค้งเล็กน้อย ขึ้นตามลำต้น กิ่ง และก้านใบ ผล รุปร่างกลมผลอ่อนสีเขียวเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-0.7 เซนติเมตร รสเผ็ดซ่ามาก เมื่อแก่เปลือกเป็นสีน้ำตาล และแตกอ้าเห็นเมล็ดสีดำเป็นมัน แหล่งที่พบขึ้นตามป่าดิบ : ในเขตภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ประโยชน์ทางสมุนไพร : ตำรายาไทยใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ด้านอื่น ๆ : ใช้ใบเป็นอาหาร ผลแก่และเมล็ด ใช้เป็นเครื่องเทศผสมเครื่องแกงของอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ ข้อมูลทั่วไป : มะแขว่น (Ma-khwaen) ชื่อวิทยาศาสตร์ Zanthoxylum limonella (Dennst.) Alston. เป็นไม้ยืนต้นใน วงศ์ Rutaceae มีการใช้เป็นยาแผนโบราณ โดยนำผลและเมล็ดมาทำเป็นเครื่องเทศ นอกจากนี้ยังมีน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการลดความเครียดของกล้ามเนื้อและสารเมตาบอไลต์บางชนิดมีฤทธิ์ต้านเซลล์ ต้านแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา และระงับความรู้สึก ลิโมนีน (Limonene) เป็นสารประกอบหลักชนิดหนึ่งในมะแขว่น ซึ่งเป็นโมโนเทอร์ปีน (Monoterpene) ที่มีกลิ่นเหมือนส้มและมะกรูดมักใช้กับผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เฒ่าเผาถ่าน พิท้กษ์โลก ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ https://youtu.be/akN5v_517nw?si=W-FsSq07NWgBE9C3

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2567

เคล็ดลับการเผาถ่าน…!!!

เคล็ดลับการเผาถ่าน…!!! ” ภูมิปัญญาที่เฒ่าเผาถ่านได้มาจากการหมกมุ่นและเป็นผีบ้าอยู่กับเตาเผาถ่านมานานกว่าสองทศวรรษ “ การเผาถ่านเป็นภูมิปัญญา จึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเคล็ดลับของวิชาการเผาถ่านที่มากพอ ( รู้จริง รู้ลึก เข้าถึง เข้าใจ ทำได้ด้วยตนเอง ) เมื่อสร้างเตาได้ประสิทธิภาพตามที่ต้องการแล้ว ต่อไปก็ต้องรู้ขั้นตอนการเผาถ่าน เพื่อให้ได้ถ่านดี มีคุณภาพ โดย …………เริ่มจากการจัดหาไม้ที่จะนำมาเผาถ่าน ( ต้องไม่ใช่การตัดไม้ทำลายป่า ) เมื่อได้ไม้มาแล้ว ต้องนำมาตากแดดประมาณ ๑๕ - ๓๐ วัน ให้แห้ง (ไม้สดก็ไม่ดี ไม้แห้งมาดก็ไม่ดี ) เมื่อไม้แห้งได้ที่แล้ว นำไปเข้าเตา โดยการเรียงไม้ในเตาในแนวตั้ง เริ่มกระบวนการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) ขั้นตอนที่ ๑ การทำให้แห้ง ( รมควัน ) การอบแห้ง  จุดไฟที่ทางเข้าเตา เผาฟืนเพื่อส่งความร้อนให้ความอบอุ่นภายในเตา โดยปกติ การทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) จะเริ่มในเวลาประมาณ ๑ ถึง ๒ ชั่วโมง หากความร้อนเพิ่มขึ้น แต่กระบวนการจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการทำให้แห้งและรมควันอย่างช้าๆ ค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิจากประมาณ 30 °C (ที่ปลายปล่องควัน ) และค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิเป็น 80 °C เมื่อการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) เริ่มขึ้น  มีวิธีปิดหน้าตอนกลางคืนและไม่เผาฟืนในกรณีไม่สามารถอยู่เฝ้าดูเตาเผาถ่านได้ แต่เนื่องจากเราต้องการกำจัดความผันผวนของอุณหภูมิ เราจึงใส่ฟืนทุกๆ ครึ่ง ถึง ๑ ชั่วโมงในระหว่างวัน และทุกๆ ๓ ถึง ๔ ชั่วโมง ในเวลากลางคืนเพื่อลดอุณหภูมิลง ระวังอย่าให้อุณหภูมิสูงเกินไปอีก  การอบแห้งเป็นเวลานานจะมีโอกาสเกิดรอยแตกร้าวน้อยลง ทำให้เกิดถ่านไม้คุณภาพสูงที่คงรูป เป็นแท่งสวยงาม ขั้นตอนที่ ๒ การทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) [炭化]  เมื่ออุณหภูมิของปล่องไฟถึงประมาณ 80 °C กลิ่นเปรี้ยวและฉุนจะถูกปล่อยออกมาจากควัน นี่คือสัญญาณว่าจุดเริ่มต้นของการทำ ไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) เริ่มต้นขึ้น  ปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่า Pyrolysis (ไพโรไลซิส) ทำให้เกิดจุดเริ่มต้นของการทำให้ไม้เป็นถ่าน และความร้อนจะเกิดขึ้นในขณะนั้น (การทำให้ไม้เป็นถ่านตามธรรมชาติ) ดังนั้นการใส่ฟืนที่หน้าเตาจึงหยุดลงและการเปิดหน้าเตาเผาจะค่อย ๆ แคบลง ( การหรี่หน้าเตา )  นี่เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในการเผาหรืออบถ่าน เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นอย่างช้า ๆ การทำให้ไม้เป็นถ่านควรเกิดขึ้นทีละน้อยโดยไม่ทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป  หากคุณหยุดการใส่ฟืนหน้าเตาเร็วเกินไป อุณหภูมิจะลดลงและการเกิดถ่านจะไม่เริ่มขึ้น นอกจากนี้ หากช้าเกินไป อุณหภูมิก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (การทำให้ไม้เป็นถ่านอย่างรวดเร็ว) เนื่องจากความร้อนของกระบวนการเผาหรืออบถ่าน ที่เกิดขึ้นเอง ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อคุณภาพของถ่านและสารละลายในน้ำส้มควันไม้จากไม้  การทำให้ไม้เป็นถ่านอย่างรวดเร็วส่งผลเสียต่อน้ำส้มควันไม้จากไม้เป็นพิเศษ ส่วนประกอบของไม้สามารถแบ่งกว้างๆ ได้เป็น ๓ ประเภท ได้แก่ ๑. เซลลูโลส ๒. เซมิเซลลูโลส และ ๓. ลิกนิน ที่จุดเริ่มต้นของการทำให้เป็นถ่าน เซลลูโลสเริ่มสลายตัว (ทำให้เป็นถ่าน) เนื่องจากความร้อน ตามมาด้วยเซมิเซลลูโลส และสุดท้ายลิกนิน น้ำมันดินที่เป็นอันตรายมีอยู่ในลิกนิน ดังนั้นจึงห้ามเก็บน้ำส้มควันไม้ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 150 °C (ที่ปลายปล่องควัน) ซึ่งเป็นช่วงที่ลิกนินจำนวนมากเริ่มสลายตัว อย่างไรก็ตาม หากเกิดการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) อย่างรวดเร็ว ลิกนินจำนวนมากจะสลายตัวตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ส่งผลให้น้ำส้มควันไม้มีสีเข้ม ซึ่งมีน้ำมันดินจำนวนมาก จึงทำให้น้ำส้มควันไม้มีสีดำได้  สีของน้ำส้มควันไม้ที่ได้จากการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) อย่างช้าๆ จะเป็นสีเหลืองอำพันที่สวยงาม แทนที่จะเป็นสีดำเหมือนน้ำส้มควันไม้ทั่ว ๆ ไป  เมื่อการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) เริ่มต้นขึ้น ช่องหน้าเตาเผาและปล่องควันจะถูกหรี่ให้แคบลงจนถึงจุดที่อุณหภูมิกำลังจะลดลง และกระบวนการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) จะดำเนินการอย่างช้าๆ  เตาเผาถ่านที่มีเพดานต่ำ ระยะห่างจากเพดานจะเท่ากันทุกจุดในเตาเผา และไม้จะถูกทำให้เป็นถ่านพร้อม ๆ กัน (หากมีระยะห่างจากเพดานจะทำให้อุณหภูมิในบริเวณนั้นสูงขึ้นได้ยาก กระบวนการทำไม้ให้เป็นถ่าน ( เผาหรืออบ ) จะเกิดขึ้นได้ช้า ) แม้ว่าการหรี่น้าเตาเผาจะถูกทำให้แคบลงในช่วงแรกของการทำให้เป็นถ่าน อุณหภูมิจะไม่ลดลง และสามารถรักษาความเป็นถ่านที่อุณหภูมิต่ำได้เป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะช่วยลดการสลายตัวของลิกนินและช่วยให้การเก็บน้ำส้มควันไม้ที่มีความบริสุทธิ์สูง ขั้นตอนที่ ๓. การการเก็บน้ำส้มควันไม้  ของเหลวที่เป็นน้ำส้มควันไม้ไม้จะถูกรวบรวมที่อุณหภูมิ ๘๐ °C ถึง ๑๒๐ °C (ที่ปลายปล่องควัน ) เมื่อไม้ภายในเตมเริ่มต้นกลายเป็นถ่าน  โดยปกติอุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง ๘๐ °C ถึง ๑๒๐ °C แต่เตาแบบวงบ่อซีเมนต์จะเลือกอุณหภูมิให้เหมาะสมอย่างระมัดระวังเพื่อผลิตน้ำส้มควันไม้ที่มีคุณภาพสูงขึ้น  สาเหตุหนึ่งก็คือวิธีการเผาเตาเผาแบบวงบ่อซีเมนต์ จะรักษาอุณหภูมิต่ำไว้เป็นเวลานาน ดังนั้นปริมาณน้ำส้มควันไม้ไม้ที่สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิ ๑๒๐ °C ถึง ๑๕๐ °C  นอกจากนี้ยังใช้สแตนเลสคุณภาพสูงที่ปลอดภัย สำหรับปล่องควันที่ช่วยระบายความร้อนให้กับควัน และเรายังมีระบบกันฝนเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนเข้ามาในกรณีที่ไม่น่าจะเกิดช่องว่างที่ข้อต่อใด ๆ ขั้นตอนที่ ๔ การกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในเนื้อถ่าน ขั้นตอนนี้ญี่ปุ่นเรียกว่า “ เซเรน '' หรือ ” เนราชิ “ 「精煉(せいれん)」または「ねらし」  เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนปิดเตา ปากเตาเผาและปล่องควันจะค่อย ๆ เปิดออกเพื่อให้อากาศเข้ามาได้มากขึ้น และเพิ่มอุณหภูมิของเตาเผาเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในเนื้อถ่าน  นี่เป็นกระบวนการเผาน้ำมันดินที่เหลือเพื่อผลิตถ่านที่ไม่ปล่อยควันเมื่อนำไปใช้ หรือเพื่อให้ได้ถ่านแข็ง สะอาด บริสุทธิ์  ถ่านภายในเตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ในตอนแรกก็จะมีเปลวไฟริบหรี่ แต่ทำต่อไปจนกว่าเปลวไฟจะหมดไป อุณหภูมิปล่องควันเพิ่มขึ้นเป็น ๔๐๐ - ๔๕๐ °C (อุณหภูมิภายในเตาเผาคือ ๘๐๐ -๑๐๐๐ °C หรือสูงกว่า) ใช้เวลา ๖ ถึง ๙ ชั่วโมง  ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิเตาเผาให้สูง ถ่านใกล้ทางเข้าเตาก็จะไหม้มากขึ้น และผลผลิตก็ลดลง (แม้จะดูเป็นผู้เชี่ยวชาญก็เผาก๊าซในเตาเผาด้วย ดังนั้นการลดลงของถ่านจึงลดลง) จะได้ถ่านน้อยลง...) แต่จะผลิตถ่านแข็งที่นำไฟฟ้าได้ดีแทน  “ คุณควรเลือกผลผลิตหรือคุณภาพ ? '' การกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในเนื้อถ่านเป็นปัญหาสำหรับผู้ผลิตถ่านมานานแล้ว ขั้นตอนที่ ๕ การทดสอบ [ เพื่อเป็นแนวทางในการเริ่มต้นการทดสอบ ให้เตรียมไม้ขีดไฟไว้และดูว่าจะใช้เวลากี่วินาทีในการเผา ]  ถ่านไม้ที่แข็งและแกร่ง ซึ่งทำให้เกิดเสียงโลหะเมื่อถูกกระแทกและให้ความรู้สึกหนัก ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการเพิ่มอุณหภูมิ แต่โดยการค่อย ๆ ทำให้เกิดถ่านตั้งแต่เริ่มต้นการเผาหรืออบถ่าน  การปรับแต่งหน้าเตาและปล่องควัน เป็นความชำนาญขั้นสูงสุดของคนเผาถ่าน เป็นช่วงเวลาแห่งความสงบและความใจเย็น เฉกเช่นพระจันทร์เต็มดวง เฒ่าเผาถ่าน พิท้กษ์โลก ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๗ ปล. Pyrolysis (ไพโรไลซิส) เป็นกระบวนการที่ใช้ความร้อนเพื่อทำให้สารมีการสลายออกเป็นสารอื่นๆ โดยไม่ใช้ออกซิเจน

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

หมอนถ่านไม้ไผ่ บันตัน 1



หมอนหนุนถ่านไม้ไผ่ 

ขนาด 19” x 29” 

บรรจุถ่านไม้ไผ่ 2.5 กก.

คุณสมบัติถ่านไม้ไผ่คุณภาพสูง 

▶️ ดูดซับกลิ่นและก๊าซพิษ

▶️ ต่อต้านและป้องกันเชื้อแบคทีเรีย

▶️ ป้องกันไรฝุ่น

▶️ ช่วยขจัดความชื้น / เหงื่อ ระหว่างการนอน

▶️ ปล่อยรังสีฟาร์อินฟราเรด ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต

▶️ ปล่อยประจุลบ ช่วยให้สดขื่น แจ่มใส และปรับปรุงดูแลสุขภาพ

▶️ ดูดซับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ

▶️ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นระหว่างการนอน

▶️ ปรับปรุงการนอนหลับโดยการควบคุมและเจือจางคลื่น Alpha and Beta ( regulating and attenuating Alpha and Beta )

✳️✳️❇️ หมอนถ่านไม้ไผ่ บันตัน มีคุณสมบัติ :-

✅ ปรับปรุงการนอนหลับให้หลับสนิท หลับลึก

✅ แก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ

✅ แก้ปัญหาอาการปวดคอและไหล่

✅ แก้ปัญหาอาการปวดหัวไมเกรน

✅ แก้ปัญหาอาการมึนงงยามตื่นนอน

✅ แก้ปัญหาอาการความเหนื่อยล้า

✅ ช่วยให้นอนหลับสบายตลอดการใช้งาน


เฒ่าเผาถ่าน


วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

ไข่ดำ ถ่านไม้ไผ่ บันตัน

ความลับของ "ไข่ดำ"

เปลือกไข่ไก่ : เต็มไปด้วยรูพรุน (Porous) ขนาดเล็กจำนวนมากที่ก่อตัวเป็นอุโมงค์ระหว่างผลึก อุโมงค์เหล่านี้ช่วยในการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างด้านในของไข่และภายนอก

เปลือกไข่ไก่ เมื่อถูกเคลือบด้วยถ่านไม้ไผ่ บันตัน แล้วนั้น แร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีในถ่านไม้ไผ่ บันตัน จะถูกกระตุ้นด้วยคลื่น Negative ions และ Far infrared ที่ปล่อยออกมาจากตัวถ่านไม้ไผ่ แร่ธาตุต่าง ๆจึงซึมผ่านรูพรุนขนาดเล็กของเปลือกไข่ชั้นนอก ผ่านเยื่อชั้นใน เข้าไปซึมซับในไข่ขาวและไข่แดง จึงส่งผลให้ "ไข่ดำ" มีรสชาติและมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ต่างจากไข่ต้มธรรมดาทั่วๆไป

ไข่ดำเฒ่าเผาถ่าน หนึ่งเดียวในประเทศไทย

ใช้เป็นอาหารเสริม รับประทานเพื่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการโดยไม่ใช้สารปรุงรส ไม่ใช้สารแต่งสี ไม่ใช้สารกันบูด

เฒ่าเผาถ่าน

20 กันยายน 2562

ไข่ดำ ถ่านไม้ไผ่ บันตัน


ความลับของ "ไข่ดำ"

เปลือกไข่ไก่ : เต็มไปด้วยรูพรุน (Porous) ขนาดเล็กจำนวนมากที่ก่อตัวเป็นอุโมงค์ระหว่างผลึก อุโมงค์เหล่านี้ช่วยในการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างด้านในของไข่และภายนอก

เปลือกไข่ไก่ เมื่อถูกเคลือบด้วยถ่านไม้ไผ่ บันตัน แล้วนั้น แร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีในถ่านไม้ไผ่ บันตัน จะถูกกระตุ้นด้วยคลื่น Negative ions และ Far infrared ที่ปล่อยออกมาจากตัวถ่านไม้ไผ่ แร่ธาตุต่าง ๆจึงซึมผ่านรูพรุนขนาดเล็กของเปลือกไข่ชั้นนอก ผ่านเยื่อชั้นใน เข้าไปซึมซับในไข่ขาวและไข่แดง จึงส่งผลให้ "ไข่ดำ" มีรสชาติและมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ต่างจากไข่ต้มธรรมดาทั่วๆไป

ไข่ดำเฒ่าเผาถ่าน หนึ่งเดียวในประเทศไทย

ใช้เป็นอาหารเสริม รับประทานเพื่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการโดยไม่ใช้สารปรุงรส ไม่ใช้สารแต่งสี ไม่ใช้สารกันบูด

เฒ่าเผาถ่าน

20 กันยายน 2562