น้ำส้มควันไม้
( Wood Vinegar )
( Wood Vinegar )
น้ำส้มควันไม้ เป็นผลผลิตที่ได้จากการเผาถ่านไม้ ภายใต้สภาพอับอากาศ ( Airless
Condition ) เมื่อผ่านแก๊สที่เกิดจากการเผาไหม้ไม้สดให้สัมผัสอากาศเย็น
จะทำให้ไอกลั่นตัวลงจนเป็นของเหลว
น้ำส้มควันไม้ เป็นสารปรับปรุงดิน และสารเร่งการเจริญเติบโตของพืช ( Plant growth accelerating substances ) สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช และควบคุมโรคพืชสาเหตุจากไส้เดือนฝอย ( Nematode ) เชื้อรา นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นฮอร์โมนพืช
น้ำส้มควันไม้ มีสารประกอบทางเคมีมากกว่า 260 ชนิด ที่สำคัญ คือ
น้ำส้มควันไม้ เป็นสารปรับปรุงดิน และสารเร่งการเจริญเติบโตของพืช ( Plant growth accelerating substances ) สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช และควบคุมโรคพืชสาเหตุจากไส้เดือนฝอย ( Nematode ) เชื้อรา นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นฮอร์โมนพืช
น้ำส้มควันไม้ มีสารประกอบทางเคมีมากกว่า 260 ชนิด ที่สำคัญ คือ
1.
กรดอะซิติก ( Acetic acid )
2.
ไนโตรเจน ( Nitrogen )
3.
ฟอสฟอรัส ( Phosphorus X
4.
โพตัสเซี่ยม.(Potassium )
5.
ฟอฺร์มาลดิไฮด์
( Formaldehyde )
6.
เอธิล เอ็น
วาเลอเรต ( Ethyl-n-valerate )
7.
เมทธานอล ( Methanol )
8.
น้ำมันทาร์ ( Tar )
ฯลฯ
สารประกอบที่สำคัญในน้ำส้มควันไม้
สารประกอบที่สำคัญในน้ำส้มควันไม้
- กรดอะซิตริก เป็นสารกลุ่มออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส
- สารประกอบฟีนอล เป็นสารในกลุ่มควบคุมการเจริญเติบโตของพืช
- ฟอร์มอลดีไฮด์ เป็นสารในกลุ่มออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค และแมลงศัตรูพืช
- เอธิล เอ็น วาเลอเรด เป็นสารในกลุ่มเร่งการเจริญเติบโตของพืช
- เมทธานอล เป็นสารในกลุ่มออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส
- น้ำมันทาร์ เป็นสารจับใบช่วยลดการใช้สารเคมี
คุณสมบัติของ น้ำส้มสกัดจากควันไม้
- ช่วยป้องกันและกำจัดศัตรูพืช
- เร่งการเจริญเติบโตของรากพืช
- ช่วยฟื้นฟูและปรับสภาพดินให้ร่วนซุย
- ช่วยให้พืชออกดอกและติดผลง่ายขึ้น
- ช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรงต้านทานโรค
น้ำส้มควันไม้ ได้จากการกลั่นตัวของควันที่เกิดจากขบวนการเผาถ่าน
ในสภาพเตาเผาที่อัปอากาศ ภายได้การควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม มีส่วนผสมของน้ำ 80
% และมีสารประกอบ 80 ~ 260 ชนิด
หรือแยกตามชนิดดังนี้ .
|
|
Compound
|
%
|
organic
acid
|
32
|
phenoli
compound
|
40
|
aldehyde
|
3
|
alkone
compound
|
5
|
alcohol
compound
|
5
|
ester
compound
|
4
|
others
|
5
|
ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง
( pH value ) 2.5 ~ 4.0
*********************
กรด-ด่าง
พีเอช pH คืออะไร
ค่า ที่ แสดงปริมาณหรือความเข้มข้นของไฮโดรเจนอิออนในน้ำ
(Hydrogen or hydronium ion: H+ or H3O+) ซึ่งเกิดจากสารที่สามารถแตกตัวให้อนุมูลกรด(H+)หรือด่าง(OH-)ได้
ความเป็นกรด-ด่าง (พีเอช) pH มีค่าตั้งแต่ 0 - 14
สภาพเป็นกรด (Acid) หมายถึง ค่าที่เป็นกรด-ด่าง หรือ พีเอช pH ต่ำกว่า 7
สภาพเป็นด่าง/เบส (Base) หมายถึง ค่าที่เป็นกรด-ด่าง หรือ พีเอช pH มากกว่า 7
สภาพเป็นกลาง (Neutral) หมายถึง ค่าที่เป็นกรด-ด่าง หรือ พีเอช pH เท่ากับ 7
สภาพเป็นกรด (Acid) หมายถึง ค่าที่เป็นกรด-ด่าง หรือ พีเอช pH ต่ำกว่า 7
สภาพเป็นด่าง/เบส (Base) หมายถึง ค่าที่เป็นกรด-ด่าง หรือ พีเอช pH มากกว่า 7
สภาพเป็นกลาง (Neutral) หมายถึง ค่าที่เป็นกรด-ด่าง หรือ พีเอช pH เท่ากับ 7
สาร
|
pH
|
กรดสารพิษจากเหมืองร้าง
|
-3.6 - 1.0
|
กรดจากแบตเตอรี
|
-0.5
|
กรดในกระเพาะอาหาร
|
1.5 - 2.0
|
เลมอน
|
2.4
|
Coke
|
2.5
|
น้ำส้มสายชู
|
2.9
|
ส้ม หรือ แอปเปิล
|
3.5
|
เบียร์
|
4.5
|
ฝนกรด
|
< 5.0
|
กาแฟ
|
5.0
|
ชา
|
5.5
|
นม
|
6.5
|
น้ำบริสุทธิ์
|
7.0
|
น้ำลายมนุษย์
|
6.5 - 7.4
|
เลือด
|
7.34 - 7.45
|
น้ำทะเล
|
8.0
|
สบู่ล้างมือ
|
9.0
- 10.0
|
แอมโมเนีย (ยาสามัญประจำบ้าน)
|
11.5
|
น้ำยาปรับผ้านุ่ม
|
12.5
|
โซดาไฟ
|
13.5
|
*********************
วิธีใช้น้ำส้มควันไม้
ใช้ฉีดพ่นใบพืช
ใช้ฉีดพ่นใบพืช
- ใช้ 2-3 ครั้ง หรือทุก 15 – 20 วัน ในช่วงฤดูการเพาะปลูกและเติบโตจนถึง 15 วันก่อนการเก็บเกี่ยว ในการใช้ก่อนการเก็บเกี่ยวนั้น สารอินทรีย์ในน้ำส้มควันไม้จะช่วยเร่งการหมักตัวของกรดอมิโนและน้ำตาล ซึ่งจะเพิ่มรสหวานและกลิ่นหอมของผลไม้
- ในกรณีของผัก ฉีดน้ำส้มควันไม้ก่อนเก็บเกี่ยว ช่วยให้คุณภาพและรสขาดดีขึ้น รวมทั้งชะลอการเหี่ยวเฉา สำหรับผักใบใช้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ก่อนเก็บเกี่ยว
- กรณีผลไม้และผักกินใบที่ใช้เวลานานในการเก็บเกี่ยว ควรใช้น้ำส้มควันไม้ 2 หรือ 3 ครั้ง ทุก 15 – 20 วัน เริ่มจากช่วงต้นของการเก็บเกี่ยว
- สำหรับผลไม้เมื่อผลไม้โตเต็มที่และเริ่มสุก เช่น ส้มจีน เมื่อสีเริ่มเปลี่ยนควรใช้น้ำส้มควันไม้ 1 – 2 ครั้ง ทุก 20 วัน จนถึง 15 วันก่อนเก็บเกี่ยว
แนวทางการใช้น้ำส้มควัน
ความ เข้มข้น โดยทั่วไปการใช้น้ำส้มควันไม้ควรเจือจางประมาณ
300 : 1 ถึง 1000 : 1 ความเข้มข้นที่มากกว่า
300 : 1 อาจส่งเสียต่อพืช ซึ่งอาจมีอาการดังนี้
1.
จุดบนใบ
2.
พืชหยุดการเจริญเติบโตชั่วคราว
3.
การเติบโตของตัวถูกเร่ง
ชะลอการเติบโตของผล
อาการใน .
ข้อ 1 และข้อ 2 เป็นผลมาจากกรดชีวภาพในน้ำส้มควันไม้
ข้อ 3 มาจากการที่ใช้น้ำส้มควันไม้มีคุณสมบัติเป็นตัวเร่งสันดาป
และการดูดซึมอาหารของพืช
ข้อแนะนำก็คือควรทดลองใช้น้ำส้มควันไม้ในพืชแต่ละชนิด และสังเกต 3 – 4 วัน ก่อนจะใช้อย่างเต็มที่ ควรใช้อย่างระมัดระวังในพืชที่มีความไวต่อสารเคมีและพืชใบอ่อน
ข้อแนะนำก็คือควรทดลองใช้น้ำส้มควันไม้ในพืชแต่ละชนิด และสังเกต 3 – 4 วัน ก่อนจะใช้อย่างเต็มที่ ควรใช้อย่างระมัดระวังในพืชที่มีความไวต่อสารเคมีและพืชใบอ่อน
ในการเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำส้มควันไม้
สามารถใช้ร่วมกับสาหร่ายทะเล ปลาหรือก้างปลาที่สกัดได้ โดยใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว
จากที่ได้กล่าวมาแล้ว ใช้น้ำส้มควันไม้ร่วมกับยาเคมีเกษตรจะมีประสิทธิภาพมากกว่าใช้แยกกัน
และน้ำส้มควันไม้สามารถที่จะใช้ร่วมกับกระเทียม ช่วยป้องกันแมลงและการติดเชื้อราได้
การใช้น้ำส้มควันไม้ร่วมกับยาเคมีเกษตร
ยาเคมีเกษตรละลายได้ดี และทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในของเหลวที่มีค่า pH ประมาณ 4 – 5 ดังนั้นผสมน้ำส้มควันไม้ซึ่งเจือจางแล้ว 500 – 1000 เท่า จะทำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น และสามารถลดปริมาณการใช้ รวมถึงไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยที่ทำให้สารเคมีติดอยู่กับพืช เนื่องจากน้ำมันทาร์ในน้ำส้มควันไม้ได้ทำหน้าที่นี้แล้ว แต่น้ำส้มควันไม้ไม่สามารถใช้ร่วมกับสารที่เป็นด่าง
การใช้น้ำส้มควันไม้ใช้ในการบำรุงดิน
การใช้น้ำส้มควันไม้ร่วมกับยาเคมีเกษตร
ยาเคมีเกษตรละลายได้ดี และทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในของเหลวที่มีค่า pH ประมาณ 4 – 5 ดังนั้นผสมน้ำส้มควันไม้ซึ่งเจือจางแล้ว 500 – 1000 เท่า จะทำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น และสามารถลดปริมาณการใช้ รวมถึงไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยที่ทำให้สารเคมีติดอยู่กับพืช เนื่องจากน้ำมันทาร์ในน้ำส้มควันไม้ได้ทำหน้าที่นี้แล้ว แต่น้ำส้มควันไม้ไม่สามารถใช้ร่วมกับสารที่เป็นด่าง
การใช้น้ำส้มควันไม้ใช้ในการบำรุงดิน
ผลดีที่จะได้กับดินมีดังนี้
- ความเสียหายที่เกิดจากแมลงและโรคในดินลดลง
- น้ำส้มควันไม้ไผ่เพิ่มประสิทธิภาพให้ปุ๋ย โดยทำให้ง่ายต่อการดูดซึมของพืช
- น้ำส้มควันไม้ไผ่ลดความเสียหายอันเกิดจากความเค็ม
ควรจะใช้ร่วมกับอย่างอื่น เช่น ปุ๋ยหมัก
ปุ๋ยอินทรีย์ ในการปรับคุณภาพของดินในระยะยาว โดยเฉพาะดินซึ่งเสื่อมคุณภาพ อันเกิดจากการเก็บเกี่ยวไม่ดี
และการใช้สารเคมีเกินควร
น้ำส้มควันไม้ที่ใช้ใส่ในดินควรมีความเข้มข้นสูงกว่าที่ใช้บนใบพืช
น้ำส้มควันไม้ไผ่ซึ่งมีความเข้มข้น 30 ต่อ 1 ถูกใช้ในปริมาณ 6 ลิตรต่อ
1 ตารางเมตร โดยทั่วไปในการฆ่าเชื้อในดินปรือขจัดไส้เดือนฝอย
ความเข้มข้นที่สูงกว่านี้สามารถนำไปใช้ได้โดยปกติ การฆ่าเชื้อในดินควรใช้น้ำส้มควันไม้ซึ่งมีค่า
pH 3 และมีความด่างจำเพาะ 1.014 และเจือจาง
8 เท่าตัว โดยใช้ปริมาณ 1 ลิตรต่อ 1
ตารางเมตร อย่างไรก็ดี ไส้เดือนฝอย มีความต้านทานสูง ต้องใช้เวลา 3
– 4 ปีเพื่อขจัดให้หมดสิ้น
การใช้น้ำส้มควันไม้สำหรับดินปลูกผัก
ให้ใช้น้ำส้มควันไม้ ความเข้มข้น 30 ต่อ 1 ก่อนปลูกโดยใช้ 6 ลิตรต่อ 1 ตารางเมตร ควรจะให้น้ำส้มควันไม้ซึมลงในดินประมาณ 50 ซม. โดยจะทำก่อนหรือหลังการไถดินก็ได้
การใช้น้ำส้มควันไม้สำหรับดินปลูกผัก
ให้ใช้น้ำส้มควันไม้ ความเข้มข้น 30 ต่อ 1 ก่อนปลูกโดยใช้ 6 ลิตรต่อ 1 ตารางเมตร ควรจะให้น้ำส้มควันไม้ซึมลงในดินประมาณ 50 ซม. โดยจะทำก่อนหรือหลังการไถดินก็ได้
ควรใช้ปุ๋ยหมักก่อนใส่น้ำส้มควันไม้ เนื่องจากหากใช้น้ำส้มควันไม้ก่อนอาจจะฆ่าจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นควรใส่ปุ๋ยหมักก่อน และสุดท้ายพรวนลงไปร่วมกัน ควรใช้ปุ๋ยหมักและน้ำส้มควันไม้ช่วยพัฒนาคุณภาพดินในระยะยาว
การใช้น้ำส้มควันไม้สำหรับไม้ผลและพืชที่ปลูกในกระถาง
กรณีไม้ผล ให้รดสิบจุดรอบต้นไม้ในบริเวณที่โดนฝน และมีรากเล็ก ควรเจือจางน้ำส้มควันไม้ 30 – 50 เท่า และใช้ 500 ลิตรต่อ 1000 ตารางเมตร
กรณีไม้กระถาง
ผสมน้ำส้มควันไม้ไผ่กับดินและทิ้งไว้ 10 – 15 วัน เพื่อระบายก๊าซออกก่อนใส่ในกระถาง
การใช้น้ำส้มควันไม้ใช้ในการหมักปุ๋ย
ช่วยเร่งขบวนการหมักโดยเฉพาะมูลสุกรและมูลไก่ การหมักจะเร็วขึ้นถ้าอุณหภูมิสูงขึ้น อุณหภูมิของปุ๋ยที่หมักมา 4 วัน จะสูงถึง 80 องศาเซลเซียส ถ้าใช้น้ำส้มควันไม้ช่วย
การใช้น้ำส้มควันไม้ใช้ในการหมักปุ๋ย
ช่วยเร่งขบวนการหมักโดยเฉพาะมูลสุกรและมูลไก่ การหมักจะเร็วขึ้นถ้าอุณหภูมิสูงขึ้น อุณหภูมิของปุ๋ยที่หมักมา 4 วัน จะสูงถึง 80 องศาเซลเซียส ถ้าใช้น้ำส้มควันไม้ช่วย
ควรใช้น้ำส้มควันไม้ที่เจือจาง 100 เท่า รดลงบนปุ๋ย แต่ควรระวังไม่ควรใช้น้ำส้มควันไม้ซึ่งเข้มข้นกว่านี้ เนื่องจากจะไปฆ่าเชื้อ
เมื่อรากพืชเป็นโรค ให้ใช้น้ำส้มควันไม้เจือจาง 100 – 200 เท่า รดที่โคนต้น ให้ชุ่มจนลึก 50 ซม.
สำหรับมะเขือเทศและแตงกวา ให้ใช้ 1 – 2 ลิตรต่อต้น
เพื่อเพิ่มความสดชื้นแข็งแรงและพัฒนาการของราก
การใช้น้ำส้มควันไม้เป็นตัวลดกลิ่นหรือเป็นอาหารเสริม
การใช้น้ำส้มควันไม้เป็นตัวลดกลิ่นหรือเป็นอาหารเสริม
1.
การลดกลิ่นมูลสัตว์
ให้รดมูลสัตว์หรือพื้นคอกเลี้ยงสัตว์ด้วยน้ำส้มควันไม้เจือจาง 50 เท่าบ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้
2.
น้ำส้มควันไม้สามารถเป็นอาหารเสริมสำหรับสัตว์
โดยช่วยปรับระดับแบคทีเรียในลำใส่และอำนวยการดูดซึมสารอาหาร ทำให้เนื้อไก่มีสีชมพู
และลดปริมาณน้ำในเนื้อไก่เหลือประมาณร้อยละ 3 ซึ่งเป็นการเพิ่มคุณภาพไก่โดยรวม
เพราะน้ำส้มควันไม้ซึ่งได้ผ่านการกลั่นอย่างดีแล้วเท่านั้น
จึงสามารถจะใช้กับสัตว์ได้ การผสมในอาหาร ให้ราดจนชุ่มบนรำข้าว ซึ่งขจัดไขมัน
หลังจากนั้นผสมในอาหารสัตว์ในอัตราส่วน 99 ต่อ 1 ส่วนผสมนี้เหมาะสำหรับสัตว์ใหญ่
ข้อคิดเห็นโดยรวม :
- น้ำส้มควันไม้ทำหน้าที่เหมือนเป็นฮอร์โมน ช่วยในการเจริญเติบโต
- การให้น้ำส้มควันไม้ร่วมกับการใช้น้ำหมักชีวภาพจะได้ผลดีกับพืช
- การใช้น้ำส้มควันไม้กับผักที่กินผล หัว หน่อ ต้องใช้ถี่กว่าผักกินใบในการป้องกันเพลี้ย หนอน
- ถ้าใช้น้ำส้มฯอัตราที่เข้มข้นมาก จะทำให้ใบเหี่ยว แห้ง และตาย
- หากใช้น้ำส้มฯมีความเข้มข้นมากจะทำให้สัตว์ป่วย เช่น เกิดท้องร่วง เชื่องซึม ซึ่งแก้ได้โดย กรอกน้ำเปล่าให้กับสัตว์เลี้ยง หรือคั้นน้ำฟักเขียวสดกับน้ำเปล่ากรอก หรือตำปูนาผสมกับฟักเขียวคั้นกรองให้สัตว์กิน
หมายเหตุ :- ขบวน การผลิต ( ขั้นตอนการผลิต ) น้ำส้มควันไม้ ( Wood Vinegar) ได้ถูกปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงไปหลากหลายรูปแบบ แต่คงต้องยอมรับความเป็นจริงอย่างหนึ่งว่าแนวความคิดการเก็บน้ำส้มควันไม้ จากการเผาถ่านนั้นเราได้รับความคิดและกรรมวิธีเดิม ๆ จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มและค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่อง น้ำส้มควันไม้มาก่อน ซึ่งกว่าที่ประเทศญี่ปุ่นจะเผยแพร่เรื่องน้ำส้มควันไม้ออกมาสู่ผู้บริโภค อนู้ในปัจจุบัน ทั้งกรรมวิธีการผลิตและคุณประโยชน์ ได้ผ่านขบวนการลองผิดลองถูกมานานหลายสิบปี และยังได้ทำการวิจัยศึกษาค้นคว้าหาส่วนประกอบของน้ำส้มควันไม้ว่ามีองค์ ประกอบอะไรบ้าง มีสารประกอบกี่ชนิด มีคุณสมบัติอย่างไร มีวิธีใช้อย่างไร ซึ่งต้องใช้ขบวนการพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงพอสมควร นั่นคือต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือและความรู้เบื้องต้นก่อนจะเจาะลึกเข้าไป หาความรู้ใหม่ ๆ ของน้ำส้มควันไม้ได้
เอาแค่ขั้นตอนการผลิตหรือขั้นตอนการเก็บน้ำส้มควันไม้ ญี่ปุ่นได้มีการกำหนดไว้เป็นมาตรฐานเลยว่า อุณหภูมิภายในเตาต้องเท่าไรจึงจะได้ส่วนที่เป็นน้ำส้ม อุณหภูมิที่เท่าใดที่จะต้องหยุดเก็บ อูณหภูมิที่เริ่มขบวนการเผาถ่านควันที่ถูกปล่อยออกมาสามารถเก็บเอาน้ำที่เรา ทำให้กลั่นตีวเป็นหยดน้ำได้หรือไม่ เหล่านี้ล้วนต้องอาศัยความรู้จริง ๆ จึงจะได้น้ำส้มควันไม้ ที่ได้มาตรฐาน ( ส่วนประกอบของเนื้อไม้ที่สำคัญ คือ :- 1.คาร์บอน 2. กรด 3. ด่าง ซึ่งมีลักษณะเป็นของแข็งและของเหลวประกอบกันอยู่ ) แต่ถ้าขาดความรู้เบื้องต้นเหล่านี้แล้วพากันโมเมว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นคือ น้ำส้มควันไม้ ก็จะเจอปัญหาหรือคำถามที่ว่า
ทำไมน้ำส้มควันไม้ที่ชาวบ้านผลิตได้ในปัจจุบัน เมื่อนำไปวิเคราะห์ทดสอบเบื้องต้นจึงมีค่าเป็นด่าง ( ค่า pH สูง ) ซึ่ง ตามมาตรฐานญี่ปุ่นนั้น น้ำส้มควันไม้ ต้องมีค่าเป็นกรด วัดค่า pH ไม่เกิน 3.0 บวก / ลบ 0.5 โดยประมาณ อย่างนี้เป็นต้น
จึงเป็นที่น่าเสียดายที่น้ำส้มควันไม้ ที่พากันเก็บในบ้านเราอยู่ในปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมและเชื่อถือเท่าที่ ควร เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการนี่เอง
เมื่อนำไปใช้แล้วไม่ได้ประโยชน์แถมยังเกิดโทษเสียอีก เพราะเท่ากับเราไปเพิ่มค่าความเป็นด่างให้กับสภาพแวดล้อม
จึงต้องขอแสดงความเห็นมา ณ.ที่นี้เพื่อจะได้ช่วยกันพัฒนาศึกษาเรียนรู้เรื่องน้ำส้มควันไม้ให้เกิด ความรู้ที่เป็นสาระประโยชน์จริง ๆ กันเสียที
ไม่ อยากให้คนไทย ประเทศไทย เป็นเช่นนี้ต่อไป คือไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามคนไทยเราขี้มักจะรู้ไปหมด ทำเหมือนรู้มากเสียด้วย แต่รู้จริงแค่ไหนไม่มีใครรู้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการอวดรู้เสียมากกว่า ทำให้การพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาครอบครัว พัฒนาชุมชน พัฒนาท้องถิ่น และพัฒนาประเทศ ผิดทิศผิดทางกันไปหมด
*********************
เฒ่าเผาถ่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น