วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บ้านถ่านไม้ไผ่ไทยอากาศดี

 เล่าเรื่อง
บ้านถ่านไม้ไผ่ไทยอากาศดี
ผู้ผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ
ภายใต้เครื่องหมายการค้า

Bunton
บันตัน
 ผลิตภัณฑ์
OTOP
ระดับ    ดาว

( พ.ศ
๒๕๕๓
)
ของ
อ.นาดี  จ.ปราจีนบุรี
********************

   คำขวัญจังหวัดปราจีนบุรี

 " ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน ไผ่ตงหวานคู่เมือง ผลไม้ลือเลื่อง เขตเมืองทวาราวดี "

           ไผ่ตง : จึงถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี นั่นก็หมายความว่า เกษตรกรจังหวัดปราจีนปลูกไผ่ตงมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

          จึงไม่น่าแปลกใจที่ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ จะถือกำเนิดที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นแห่งเดียวที่สามารถผลิตถ่านไม้ไผ่ได้คุณภาพมาตรฐานเดียวกับถ่านที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลี กลุ่มผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่ไทยอากาศดี คือผู้ผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย และได้รับการคัดสรรเป็นสินค้า OTOP ของจังหวัด ที่สร้างชื่อเสียงให้ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี

        เพื่อบันทึกไว้ในแผ่นดิน จึงขอบันทึกเรื่องราวของถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ ของ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นตำนาน เพื่อลูกหลานได้ศีกษาและเรียนรู้สืบไป

         โครงการ :ส่งเสริมการบันทึกภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างตำนานผลิตภัณฑ์

        ประวัติความเป็นมา  : ในประเทศไทย ได้มีการผลิตถ่านไม้ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงมาเป็นเวลานานมากแล้ว ซึ่งวิธีการผลิตถ่านไม้ที่ใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่หลายคนคงเคยพบเห็น ก็คือ การที่ชาวบ้านตัดต้นไม้ทั้งที่อยู่ในที่ของตนเองและในป่าไม้ธรรมชาติมาเผา โดยการนำท่อนไม้มาวางเรียงแล้วจุดไฟ จากนั้นจึงใช้ดินหรือแกลบกลบ ปล่อยให้ลุกไหม้แล้วนำถ่านออกมาดับด้วยน้ำ และมักจะย้ายที่ผลิตไปเรื่อย ๆ ตามแต่ว่าที่ไหนจะมีไม้ให้เผา เมื่อไม้หมดก็จะย้ายไปผลิตที่อื่นต่อ การผลิตถ่านไม้จึงถูกมองว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่าและสร้างมลพิษ เมื่อการผลิตถ่านไม้ถูกมองว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่า อีกทั้งกฎระเบียบต่าง ๆที่เกี่ยวกับป่าไม้ก็ไม่เอื้ออำนวยให้เกิดแรงจูงใจในการพัฒนาวิธีการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ดังนั้นการศึกษาทำความเข้าใจ การวิจัยพัฒนาคุณภาพและผลผลิตของถ่านไม้ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้ จึงมีน้อยมาก

        การผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพในประเทศไทย อาจกล่าวได้ว่าเป็นแบบก้าวกระโดด คือ แตกต่างจากการเผาถ่านที่คนไทยทั่วไปรู้จักเป็นอย่างมาก เนื่องจากการผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพนั้นเป็นการนำเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้สามารถเผาถ่านไม้ไผ่ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียสได้

        ผู้ผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ ( คนแรกของประเทศไทย ) คือ คุณกิตติ เลิศล้ำ ได้รับการถ่ายทอดทั้งเทคนิคในการทำเตาเผาและกรรมวิธีในการทำทั้งหมดจากเพื่อนชาวญี่ปุ่น ชื่อ Mr. Daisaku Nakago ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความชำนาญเรื่องการทำถ่านไม้เป็นอย่างดี เนื่องจากครอบครัวของ Mr. Daisaku Nakago ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นประกอบอาชีพผลิตถ่านไม้ มาหลายชั่วอายุคน เมื่อทั้งสองได้เล็งเห็นว่าบ้านเกิดของคุณกิตติที่จังหวัดปราจีนบุรีนั้นมีการปลูกไม้ไผ่กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นวัตถุดิบในการผลิตถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพได้ คุณกิตติจึงตัดสินใจลงมือทำทันที เมื่อปี พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อทำเป็นสินค้าส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น นอกจากคุณกิตติจะได้ฝึกฝนการเผาถ่านตามกรรมวิธีที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นได้แนะนำจนเกิดความชำนาญและปรับปรุงพัฒนาเทคนิคกรรมวิธีการเผาจนสามารถทำถ่านไม้ไผ่ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว คุณกิตติยังได้ศึกษา ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องถ่านไม้ไผ่ จนทราบว่าถ่านไม้ไผ่มีคุณสมบัติอย่างไร นำไปใช้ประโยชน์ด้านใดได้บ้าง และผลพลอยได้จากการทำถ่านไม้ไผ่ ที่เรียกว่า น้ำส้มควันไม้ไผ่ ( BAMBOO VINEGAR) นั้นมีคุณสมบัติและคุณประโยชน์อย่างไร จากตำราของเพื่อนชาวญี่ปุ่นและจากการค้นคว้าด้วยตัวเองทาง Internet บ้าง สื่ออื่น ๆ บ้าง ดังนั้นเมื่อคุณกิตติต้องประสบกับปัญหาด้านการส่งออก เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นได้มีการกำหนดโควต้าการนำเข้าถ่านไม้ไว้ในจำนวนที่จำกัด อีกทั้งข้อกำหนดทางกฎหมายในเรื่องถ่านไม้ในประเทศไทยก็ยังไม่เอื้ออำนวย คุณกิตติจึงมีความคิดที่จะทำตลาดในประเทศไทยแทน เพราะเห็นว่าถ่านไม้ไผ่ที่ทำได้นั้นมีคุณสมบัติและคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพของผู้ใช้แตกต่างจากถ่านไม้ทั่ว ๆไปที่มีอยู่ในตลาด และสินค้าเพื่อสุขภาพที่ทำจากถ่านไม้ไผ่ในประเทศไทยก็ยังไม่มีในขณะนั้น ในช่วงนั้นเองทางรัฐบาลก็ได้มีโครงการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ( OTOP CHAMPION ) และได้เปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดย่อม ( SME) เข้าร่วมโครงการได้

         คุณชาญอนันต์ ชัยชาญ พัฒนาการอำเภอนาดี ( เมื่อปี 2546 ) ได้เข้ามาให้คำแนะนำและส่งเสริมให้คุณกิตติได้ส่งสินค้าเข้าร่วมคัดสรรในปี พ.ศ. 2546 ซึ่งต่อมาถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพได้ผ่านการคัดสรรให้เป็นสินค้า OTOP ในระดับ 4 ดาว ของภาคกลาง และได้ไปจำหน่ายที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2546 ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่คุณกิตติได้เริ่มทำถ่านไม้ไผ่มาเป็นเวลากว่า 4 ปี ซึ่งในครั้งนั้นถึงแม้ว่าจะมียอดจำหน่ายไม่สูงนัก แต่ก็ถือว่าได้ผลตอบรับที่น่าพอใจ เพราะมีผู้ให้ความสนใจเกี่ยวกับคุณสมบัติและคุณประโยชน์ของถ่านไม้ไผ่ทั้งจากประชาชนทั่วไปและสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ติดต่อสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีคนรู้จักถ่านไม้ไผ่มากขึ้น นอกจากนั้นทางคณะผู้บริหารของสถาบันเพื่อพัฒนาการเกษตรและชนบทจำเนียร สาระนาค ( สจส. ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การสบับสนุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส. ) เพื่อดำเนินการให้บริการทางการศึกษาดูงานและฝึกอบรมด้านการพัฒนาการเกษตรและชนบท แก่หน่วยงาน องค์กร และบุคคลทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ ได้ให้ความสนใจและให้เกรียติมาเยี่ยมชมสถานที่ผลิตและช่วยอุดหนุนสินค้าผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ ถึงจังหวัดปราจีนบุรีเลยทีเดียว นอกจากนั้นคุณกิตติยังรับเกรียติให้เป็นวิทยากรรับเชิญ เพื่อให้คำแนะนำแก่เกษตรกรที่สนใจในเรื่องของการเผาถ่านด้วยถังน้ำมัน 200 ลิตร ร่วมกับทีมงานวิทยากรของ สจส. ตามที่ต่าง ๆอีกด้วย เช่น งานกาชาดจังหวัดเชียงใหม่, งานเพื่อฟ้าดินที่ราชธานีอโสก จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น

         นอกจากนั้นคุณกิตติยังได้รับการส่งเสริมและคำแนะนำต่างๆ จากหน่วยงานทางภาครัฐ ของจังหวัดปราจีนบุรี ทั้งพัฒนาชุมขนจังหวัด, อุตสาหกรรมจังหวัด, พาณิชย์จังหวัด, พัฒนาชุมชนอำเภอนาดี ฯลฯ ทำให้คุณกิตติได้ไปเข้าร่วมการ อบรม และสัมมนาในโครงการต่าง ๆ ของหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ จนสามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนารูปแบบของสินค้าให้สวยงามและเป็นที่ต้องการของตลาดยิ่งขึ้น ทำให้การไปจำหน่ายสินค้าที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ในงาน เมืองแห่งภูมิปัญญาไทย (OTOP CITY) วันที่ 21 – 28 ธันวาคม 2546 มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ และมียอดสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทุกวันนี้

         เอกลักษณ์และจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :   ผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ เป็นสินค้าที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในท้องถิ่น ดังจะเห็นได้จากคำขวัญของจังหวัดปราจีนบุรีที่ว่า “ ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน ไผ่ตงหวานคู่เมือง ผลไม้ลือเลื่อง เขตเมืองทวารวดี ” อีกทั้งยังได้นำภูมิปัญญาของท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นอีกด้วย นอกจากนั้น คุณสมบัติและคุณประโยชน์ต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพที่ทางผู้ผลิตได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ออกไปนั้น ก็สามารถตรวจสอบและพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แต่วิธีง่าย ๆ ที่ใช้ดูลักษณะถ่านประเภทนี้ก็คือ เมื่อเคาะถ่านจะมีเสียงดังกังวานคล้ายเสียงเคาะกระเบื้องดินเผา เมื่อหักดูจะเห็นสีดำมันวาว และเมื่อใช้นิ้วถูที่บริเวณรอยหักของถ่านจะไม่มีสีดำติดที่นิ้วเลย ส่วนที่ผิวถ่านอาจจะมีสีดำติดบ้างเล็กน้อย เนื่องจากคุณสมบัติของเปลือกไม้ เมื่อนำไปให้เป็นเชื้อเพลิงจะจุดติดไฟได้ยาก แต่เมื่อติดแล้วจะให้ความร้อนที่สูงมาก มอดดับช้า ถ่านไม่แตกปะทุ และควันน้อยมาก

       คุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นเกิดจากการเผาถ่านด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่า 1,000  องศาเซลเซียส  มีลักษณะพิเศษ  ดังนี้ :-
  • มีรูพรุนมากกว่า  หากนำมาแผ่กระจายออกเป็นพื้นที่จะได้พื้นที่มากถึง 300 ถึง 700  ตร.ม / กรัม ( ถ่านไม้ทั่วไป จะได้พื้นที่ประมาณ  50  ตร.ม / กรัม  )
  • มีค่าความด้านทานไฟฟ้า ( Resistance ) ต่ำ  ( ไม่เกิน 100 โอห์ม )
  • Fixed Carbon มากกว่า 85 % แลมีแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ 


เฒ่าเผาถ่านพิทักษ์โลก
http://www.bantanthai.com


เราคือ : “ ต้นตำหรับถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ 
***************
ความ มุ่งมั่นของเรา
บ้านถ่านไม้ไผ่ไทยอากาศดี
คือ :-
 ความเป็น เลิศ ทางด้านคุณธรรม
ความก้าว ล้ำ ทางด้านคุณภาพ
 เราคือ :-
ต้นตำหรับผลิตภัณฑ์
" ถ่านไม้ไผ่เพื่อสุขภาพ "
 ตรา.
 " Bunton"
 " บันตัน "
110 หมู่ที่ 1 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรึ 25220
โทร.086 786 1880
อรอนงค์ เลิศล้ำ )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น